Fic 魔道祖师 Mo Dao Zu Shi : Secret Diary 2/??


Title : Fic 魔道祖师 Mo Dao Zu Shi
Type :  Dialogue Fiction

Topic : Secret Diary  บันทึกของวั่งจี ถึงเว่ยอิง

Pair : หลานวั่งจี x เว่ยอู๋เซี่ยน
Chapter 2 : วิถีการเลี้ยงเด็กของปรมาจารย์อี๋หลิงและหานกวงจวิน


คำเตือน 
  • Fic เรื่องมีความเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเพศเดียวกัน หากมีทัศคติที่รับไม่ได้กรุณากดออก
คำชี้แจง

  • Fic เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักใดๆ ของปรมาจารย์ลัทธิจารย์ Mo Dao Zu Shi 魔道祖师 ที่อาจารย์ Mo Xiang Tong Xiu เจ้าของผลงาน เป็นเพียงเรื่องสมมติที่จินตนาการมาจากความคิดผู้แต่ง
  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน Fic เรื่องนี้กันนะคะ ถ้าชอบอย่าลืมช่วยกันคอมเม้นท์ โหวต แชร์ ถูกใจ หรือติดตามเป็นกำลังใจให้แก่คนเขียนนะคะ
  • หากมีผิดพลาดประการใด ไม่ถูกใจท่านผู้อ่าน ต้องกราบขออภัยล่วงหน้าค่ะ
  • รักนักอ่านทุกท่านคะ


============================
============================






Secret Diary  บันทึกของวั่งจี ถึงเว่ยอิง

บทที่ 2 : วิถีการเลี้ยงเด็กของปรมาจารย์อี๋หลิงและหานกวงจวิน




**คำเตือน**

ฟิคเรื่องนี้ ราดฟีลเตอร์คนหลงเมียขั้นสุด

กรุณาใช้จักรยานในการอ่าน...
อย่าเอาความจริงอะไรมาก
กับบันทึกลับคนเห่อเมีย 3018
ลงชื่อผู้ประพันธ์ (หลานวั่งจี )


หลายคนอาจชื่นชมหนักหนาว่า...
ข้าเลี้ยง เวินเยวี่ยน หรือหลานซือจุยมา ได้ยอดเยี่ยมนัก
ตัวซือจุยเองก็มักจะแย้มยิ้ม แล้วกล่าวว่าขอบคุณที่ข้าเป็นผู้อุปถัมภ์เลี้ยงดูเขา
แน่นอน...ข้าก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ข้ารักและเอ็นดูซือจุยเยี่ยงบุตรคนหนึ่ง

ตั้งแต่หลานซือจุยเข้ามา มันทำให้ชีวิตข้าที่แสนเคร่งขึงแสนน่าเบื่อหน่าย....
...ต้องทำตามกฎกูซูหลานมากมาย
...ดำเนินตามหน้าที่ในอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่อย่างไร้จุดหมาย
...ได้ตระหนักว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
อย่างน้อย ๆ ข้าก็อยากมีชีวิตอยู่ยืนนานถึงบั้นปลาย
จนเห็นซือจุยบรรลุปณิธาณในชีวิต หรือแต่งงานมีครอบครัว

ย้อนกลับไปแล้ว...นี่ก็คงเป็นสายตาที่ท่านอามองข้ากับท่านพี่
และสายตาของท่านพี่ มีต่อวั่งจีผู้นี้กระมัง

พูดถึงการอุปถัมภ์รับเลี้ยงหลานซือจุย
ที่มาที่ไปหลาย ๆ คนคงได้ทราบแล้ว
ข้ามิได้เป็นผู้เริ่มต้น แต่เป็นผู้ตกกระไดพลอยโจร
คนที่ต้องการ รับเลี้ยงอาเยวี่ยนที่แท้จริง ไม่ใช่ข้า
...แต่เป็นปรมาจารย์อี๋หลิงต่างหาก

หากใครได้รับรู้ มักจะกล่าวว่า...
ดียิ่งนักที่หานกวงจวินเป็นผู้เลี้ยงดูซือจุย มิได้ปล่อยให้เด็กน้อยถูกจอมมารเลี้ยงดูมา
มองผิวเผินภายนอก คนทั่วไปอาจมองว่าเยี่ยงนั้น
.
.
อันที่จริง...ข้าก็เคยเห็นความว่าเยี่ยงนั้น

“หลานจ้าน เจ้าเลี้ยงอาเยวี่ยนตามใจไปแล้วนะ!

หึ-ฮึ่ม!... แต่ดั่งเช่นคำกล่าว ร้อยพ่อพันแม่
การเลี้ยงเด็กนั้นก็มีหลายแบบ จะให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันหมด ปถุชนคงไม่มีแตกต่าง
อาจเลวร้ายจนต้องถอดถอนคำสอนหยินหยางทิ้งแล้วกระมั้ง

ในขณะที่ใครต่อใครต่างชื่นชมข้า
ทว่า...เว่ยอิงมักจะบ่นกระปอดกระแปดว่า ข้าเลี้ยงดูหลานซือจุยเอาใจเกินไป
ตอนแรกข้าก็ไม่เข้าใจ... ค้านในใจว่า เว่ยอิงต่างหากที่เลี้ยงดูเด็กได้หละหลวมไม่เหมาะสม

ปล่อยให้อาเยวี่ยนเกาะขาตอนเดินไปไหนมาไหนบ้าง
ฝังเขาไว้เยี่ยงผักกาดในแปลงดินบ้าง
ให้เขาแทะกินอาหารตามมีตามเกิดบ้าง
แสดงความตระหนี่กับเด็กเล็กไม่ซื้อของเล่นราคาไม่กี่อีแปะให้บ้าง
ให้นอนในที่ที่ไม่เหมาะสม อย่างโรงนา หรือล้วนจังกั้ง โดยไม่คิดหน้าหลังบ้าง

ข้าเลยจำเป็นต้องลงมืออุ้มชูซือจุยด้วยตนเอง
ทั้งโอบอุ้มเข้าเอวแนบอก ยามเดินทางไปไหนมาไหน
ทั้งจัดแจงอาหารเหมาะสมให้อิ่มท้อง
ทั้งซื้อของเล่น เอาใจไม่ให้หงุดหงิดงอแงแหกปากร้อง
ทั้งจัดแจงปัจจัยสี่ให้พร้อมครบ เลี้ยงดูตามที่ชีวิตเด็กเล็กควรจะมี

แต่ไหนเลย... เว่ยอิงมักบุ่ยหน้ากล่าวว่า..ข้าเลี้ยงเด็กไม่เป็น
แรกเริ่มข้าคิดเพียงแต่ว่าเว่ยอิงน้อยใจ ที่ซือจุยติดข้ามากกว่าคนที่เก็บมาเลี้ยงอย่างเจ้า
แต่พอมองย้อนกลับไป...ไตร่ตรองดีๆ
เว่ยอิง ถือได้ว่าเป็นผู้อุปถัมภ์และผู้ปกครองที่มีแนวคิดการเลี้ยงเด็กยอดเยี่ยมทีเดียว

เว่ยอิงเคยเป็นคนที่มีพร้อมทุกอย่าง
เด็กที่มีบิดามารดรรักใคร่ติดตามไม่ห่างกาย
อยากได้อะไรก็ได้ ทั้งความรัก และสิ่งของ
แต่วันหนึ่งทุกอย่างกลับมลายหาย ทลายล่ม เหลือเพียงชีวิตเดียว ไร้ที่ซุกหัวนอน
แย่งชิงกินของเศษเดนกับหมาจร ดิ้นรนทนสู้ข้าถนน เอาชีวิตรอดไปวัน ๆ
อัตคัดขัดสนดินบนชะตากรรมเดียวดายร่วมหลายปี ตั้งแต่วัยเยาว์

จวบจนสวรรค์เมตตาเว่ยอิง
ส่งอดีตประมุขเจียง ให้โอบอุ้มเป็นที่พึ่งพิง ปัดเป่าความยากแค้นให้จางหาย
เลี้ยงฟูมฟักเอ็นดูดั่งลูกชาย มีศิษย์พี่น้องรอบกาย อบอุ่นไม่เดียวดายด้วยสำนักอวิ๋นเมิงเจียง

จนกระทั่งสลัดเปลือกเผยความยอดเยี่ยมหาใครจะเทียบเคียงแทบไม่มี
ศาสตร์ ศิลป์ ยุทธ์ ช่างเด่นเลิศ ผนวกกับไหวพริบยากประเมิน
เด่นล้ำเกินใคร จนเรียกได้ทั้งมิตรและศัตรูให้เข้าหา

และแล้วโชคชะตากลับตวัดคว่ำบาตรเว่ยอิงอีกครา
สูญเสียสกุลเจียง เผชิญชะตาหายนะ ที่ใครต่อใครต่างรู้กันดี
ดิ้นรนหลบหนีสายตาสกุลเวิน ต่อสู้ให้หลุดพ้นจากหุบเหวศพไร้ญาติ
ด้วยสามารถที่ไร้จินตัน เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น หาใช่เซียน

ในวันที่เว่ยอิงจับมือรั้งอาเยวี่ยนได้
เป็นช่วงที่ศึกชิงตะวันกล้ำกลาย แผ่ความระส่ำระส่ายไปทั่วไทในใต้หลา
ปรมาจารย์อี๋หลิงคงมองอาเยวี่ยนด้วยสายตาเวทนา
คงเห็นว่า ต้องเลี้ยงอาเยวี่ยนให้พร้อมรับมือกับโชคชะตา...
ที่อาจจะชักพาให้เด็กคนนั้นจมดิ่งสู่จุดต่ำสุดในชีวิต อย่างเดียวดาย
เพราะอนาคตไม่อาจคาดหมาย วันนี้ตนอุปถัมภ์ พรุ่งนี้ตนอาจตาย
อาเยวี่ยนคงมีโอกาสประสบเคราะห์ร้าย เป็นเด็กข้างถนนเยี่ยงตนแน่นอน

จึงไม่แปลกที่เว่ยอิงมักไม่อุ้มอาเยวี่ยน
เพราะอยากให้เรียนรู้การเดินด้วยสองขา
บางครั้งก็แอบปล่อยเด็กน้อยไว้กลางตลาด แล้วตนเองก็หนีไปนอนอยู่เพิงนา
เพื่อฝึกให้อาเยวี่ยนรู้จักว่า สองตาต้องสอดส่องตามติดให้ทันการเคลื่อนไหวของผู้คน
ฝึกไหวพริบ จดจำทางหลีกหลบ นำตนเองกลับสู่ที่พึ่งพิง
โดยไม่ต้องให้ใครคอยวิ่งตามดูแล เรียกขานหา กระชากจูงมือนำทาง
เกิดวิถีชีวิตผันผก ไม่มีใครเลี้ยงดูเคียงข้าง...
จะได้เอาตัวรอดด้วยไหวพริบ ด้วยแขนขาทั้งสองข้างของตน

จึงไม่แปลกที่เว่ยอิงมักไม่เลี้ยงอาเยวี่ยน ด้วยอาหารหรูหรา
มักพาไปล่าสัตว์ เก็บผักผลไม้จากป่าเขาห้วยหนองท้องนาไร่ทุ่ง แล้วปรุงกินแบบง่ายๆ
หากวันหนึ่งไร้ตนแล้ว อาเยวี่ยนจะได้ไม่เลือกกินอยู่เอาแต่สบาย
รู้จักเก็บพิจารณาพืชผลใส่ปากยาไส้ วิ่งล่าสัตว์มาปิ้งย่างบรรเทาท้องได้ ในวันที่ไร้เงินทอง
ไม่ก็กินอาหารที่เน้นอิ่มท้อง ไม่เน้นราคาและรสชาติให้มากความ

จึงไม่แปลกที่เว่ยอิงมักไม่เลี้ยงอาเยวี่ยน เอาใจด้วยของเล่น
เว่ยอิงคงเห็นว่าของพวกนั้นไม่จำเป็นต่อชีวิตหนักหนา
ทั้งสิ้นเปลือง ไม่นานก็เบื่อ รวดเร็วที่จะไร้ค่า
หากซื้อมามีแต่จะทำให้อาเยวี่ยนไม่รู้จักไตร่ตรองว่า แท้จริงชีวิตต้องการอะไร

หากเติบโตไป เกรงว่าอาจเป็นคนเหลวเป๋วเช่นเวินเฉา...
....มีความต้องการไม่รู้จักจบสิ้นตลอดเวลา
ยิ่งอาเยวี่ยนเป็นเด็กกำพร้า ชีวิตคงยากที่หาจะจับจ่ายสิ่งปรนเปรอทุกความต้องการ

ต้องสอนให้รู้จักหักห้ามใจบ้าง...
ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญความเจ็บปวด โหยหา..
แบบตอนที่ตนเองไร้สิ้นผู้อุปถัมภ์ บิดร มารดา และท่านอา
ต้องสั่งสอนให้อาเยวี่ยนรู้จักว่า จงหันหลังใส่ความอาลัยอาวรณ์
แล้วแสวงหาความสุขในสิ่งที่เป็นไปได้ทดแทนไปก่อน ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง

จึงไม่แปลกที่เว่ยอิง มักไม่ประคบประหงมอาเยวี่ยนนัก
มักฝังอาเยวี่ยนเยี่ยงพืชผักลงดินในสวน
แม้ดูเป็นพฤติกรรมไร้แก่นสาร กวนประสาทอาเยวี่ยนให้สั่นรวน
แต่ความจริงแล้ว คือ ฝึกให้อาเยวี่ยนรู้จักคิดคำนวณหาทางเอาตัวรอดด้วยตนเอง
หากอาเยวี่ยนมีไหวพริบสักนิด คงออกมาได้โดยง่าย
หากอาเยวี่ยนฝึกฝีปากต่อรองกับเว่ยอิงได้ คงไม่ต้องถูกฝังกายไว้ใต้ดินจนพลบค่ำ

อีกประการที่เว่ยอิงชอบสวมบทคนใจร้าย ต่อหน้าอาเยวี่ยน
เพราะอยากให้เด็กน้อยรู้ซึ้งถึงบทเรียน...
ว่า [ อย่ามัวแต่เพียรเพ่งเล็งขอให้คนอื่นรักเมตตา เพราะในโลกหล้า ไม่มีใครรักเราได้มากกว่าตนเอง ]

แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เว่ยอิงมักแอบดูอาเยวี่ยน ที่หลงทางกลางตลาดด้วยสายตาห่วงหา
แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เว่ยอิงมักเสาะหาขนมอร่อย ๆ มาให้อาเยวี่ยน
แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เว่ยอิงมักทำให้ชีวิตเด็กน้อย เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะควบคู่กับบทเรียน
แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เว่ยอิงมักพัดหวีปัดเป่าริ้นไรให้อาเยวี่ยนทุกครั้งที่หลับนอน

ไหนเลย...จะเคยมีใครรู้หรือไม่ว่า หลานซือจุยผู้นั้นเคยถูกกล่อมนอนด้วยเสียงขลุ่ย บนตักและอ้อมกอดของปรมาจารย์อี๋หลิงเหล่าจู

มีเพียงข้า...หลานวั่งจีนี่แหละที่รู้เพียงผู้เดียว

ด้วยเหตุนานาประการเช่นนี้ เว่ยอิงถึงบ่นข้านัก
ว่าเลี้ยงดูฟูมฝักอาเยวี่ยนมาให้เสียคน

หากเทียบกับปูมหลังของเว่ยอิงก็คงใช่
ข้าเลี้ยงดูหลานซือจุยในกูซูหลาน
ในอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่แห่งนี้ ไม่ต้องระแวดระวังถึงความอัตคัดมาแผ่วพาล
ไม่ต้องนึกถึงความทรมานอดอยาก ไร้ที่ซุกหัวนอน
มีเพียงคำนึงถึงกฎสี่พันข้อ ตั้งใจศึกษาหาความรู้ และตระหนักรู้หน้าที่ ฝึกฝนตน
ไม่เคยคิด...ว่าวันหนึ่ง ชะตาของตน อาจจะร่วงหล่นลงสู่จุดตกต่ำเลยสักครา

เรียกได้ว่าเหล่าสกุลหลาน บกพร่องตกหล่นคำสั่งสอน หัวข้อการต่อสู้ดิ้นรนกับโชคชะตา
แต่เรื่องนั้นสำหรับเจ้ากับซือจุย ไม่จำเป็นที่ต้องเรียนรู้ และจดจำหรอกหนา
เว่ยอิง...ตราบใดที่มีข้า เจ้ากับซือจุยจะไม่มีทางมีโชคชะตาข้นแค้นลำเค็ญอีกแน่นอน

เพราะข้านี้แหละจะดิ้นรน... เพื่อให้พวกเจ้าได้หลับนอนอิ่มท้อง ในฐานะพ่อและสามี




นี่แหละ...คือ วิถีการเลี้ยงดูลูกของข้าและเว่ยอิง
ลงชื่อ... ( หลานวั่งจี )






วั่งจี : เติบโตได้งดงามจริงๆ... //จ้องซือจุยแล้วพูดกับตัวเอง


ซือจุย : เอ๊ะ? หานกวงจวิน มีอะไรหรือขอรับ?
(เห็นจ้องหน้าข้าตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว)




วั่งจี : เปล่า... //หันไปเขียนบันทึกลับต่อ












【บทที่ 2 - จบ】
โปรดติดตาม ตอนต่อไป



จะรีบไปไหนๆ ถ้าชอบและถูกใจ Fic เรื่องนี้ 
อย่าลืมส่งมอบคำติชม หรือให้กำลังใจ กับ Suky ได้ที่


『กล่อง Comment ด้านล่าง』
ไม่ต้องสมัคร/ลงทะเบียนให้วุ่นวาย พิมพ์ได้เลย! 

หรือ

หากท่านเล่นทวิตเตอร์ เมนชั่นคุยกันใต้ทวีตเรื่องนี้
คลิ๊กตัวอักษรสีฟ้าเลย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน Fic เรื่องนี้นะคะ อิอิ




ติดตามผลงาน Fic / นิยาย ของ Suky ได้ที่

============================
============================

ความคิดเห็น

  1. ประโยคสุดท้ายเหมือนมีออร่าวิ้งๆแสงสาดส่องมาจากพี่เขามาก555555555
    ที่จริงเราว่าน่ารักมากเลยค่ะประโยคที่บอกว่า "มีเพียงข้า...หลานวั่งจีนี่แหละที่รู้เพียงผู้เดียว"
    i have only eyes for you. เพื่อเธอ เธอเท่านั้น (น่ารักจะบ้าแล้ว โรแมนติกอะไรยังงี้ T T)

    ตอบลบ
  2. หลงเมียเว่อร์~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ 5555555555555555555555555555++

    ตอบลบ
  3. จะเหมือนก็เหมือนนะ ผมเหมือนพี่เว่ย หน้าตาเเละการวางตัวเหมือนพี่วั่ง พ่อเเม่ลูกกันจริงๆนั้นละ
    🤔🤔🤔🤔🤔

    ตอบลบ
  4. โห แต่งออกมาได้ดีมากเลยค่ะ ตีแตกเรื่องการเลี้ยงเด็กมากๆ ซึ่งจริงๆมันควรจะเป็นอย่างนี้แหละ เราไม่ควรเลี้ยงเด็กให้รักสบายเกินไป ไม่งั้นจะเคยตัว

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ21 สิงหาคม 2562 เวลา 02:35

    มันต้องขนาดนั้นเลยนะหลานวั่งจี คนอะไรอวยอวดขิงได้ในเวลาเดียวกันขนาดนี้ ยิ่งกว่าหลง! ว้อยยยยย 555555555555555555

    ตอบลบ
  6. บทนี้มีแต่ความอวยเมีย

    ตอบลบ
  7. นุรักไรท์💗❤️💕💖💓😭😭😭😭✨💗💗💗💓✨😭💓💓✨✨

    ตอบลบ
  8. อาป๊าอาม๊าของอาเยวี่ยน💕

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น